ระดับความเหมาะสมในการเลือกใช้วิธีการขึ้นรูปเหล็กกล้าไร้สนิม | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
ผิวสเตนเลส (รีดเย็น) โดยทั่วไปมีหลากหลายแบบเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้หลากหลายประเภท ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
## วิธีการขัดผิวสเตนเลสให้ได้ผิวที่เหมาะแก่การใช้งานนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่นเดียวกันโดยวิธีการขัดที่นิยมใช้ ได้แก่ ** การขัดผิวด้วยกระบวนการเชิงกล (Mechanical Polishing) ** นิยมใช้กับสเตนเลสที่เป็นแผ่นหนา หรือสเตนเลสในลักษณะเป็นม้วน (coil) ** การขัดผิวด้วยกระบวนการทางเคมี (Chemical Polishing) ** นิยมใช้กับชิ้นงานสเตนเลสขนาดเล็ก และบาง เช่น สารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ซึ่งไม่เหมาะที่จะขัดด้วยกระบวนการขัดเชิงกล ** การขัดผิวด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า ( Electro Polishing) ** นิยมใช้กับชิ้นงานสเตนเลสที่ต้องการความละเอียด และความสะอาดของผิวสูง เช่น อุปกรณ์ สำหรับผลิตยา หรือเครื่องสำอาง
** หมายเหตุ "L" Grades แสดง
ถึงสเตนเลสนั้นมีคาร์บอนผสมอยู่น้อย (Low Carbon) ซึ่ง L เกรด
จะเพิ่มความต้านทานพิเศษของการกัดกร่อนตามขอบเกรน แม้ผ่านการเชื่อมมาแล้ว
แต่สเตนเลสชนิด L เกรด ราคาจะสูงกว่าชนิดธรรมดา เช่น 304L, 316L เป็นต้น
|
ผิวสเตนเลส (รีดเย็น) โดยทั่วไปมีหลากหลายแบบเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้หลากหลายประเภท ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
## วิธีการขัดผิวสเตนเลสให้ได้ผิวที่เหมาะแก่การใช้งานนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา เช่นเดียวกันโดยวิธีการขัดที่นิยมใช้ ได้แก่ ** การขัดผิวด้วยกระบวนการเชิงกล (Mechanical Polishing) ** นิยมใช้กับสเตนเลสที่เป็นแผ่นหนา หรือสเตนเลสในลักษณะเป็นม้วน (coil) ** การขัดผิวด้วยกระบวนการทางเคมี (Chemical Polishing) ** นิยมใช้กับชิ้นงานสเตนเลสขนาดเล็ก และบาง เช่น สารกึ่งตัวนำ (Semiconductor) ซึ่งไม่เหมาะที่จะขัดด้วยกระบวนการขัดเชิงกล ** การขัดผิวด้วยกระบวนการทางไฟฟ้า ( Electro Polishing) ** นิยมใช้กับชิ้นงานสเตนเลสที่ต้องการความละเอียด และความสะอาดของผิวสูง เช่น อุปกรณ์ สำหรับผลิตยา หรือเครื่องสำอาง
** หมายเหตุ "L" Grades แสดง
ถึงสเตนเลสนั้นมีคาร์บอนผสมอยู่น้อย (Low Carbon) ซึ่ง L เกรด
จะเพิ่มความต้านทานพิเศษของการกัดกร่อนตามขอบเกรน แม้ผ่านการเชื่อมมาแล้ว
แต่สเตนเลสชนิด L เกรด ราคาจะสูงกว่าชนิดธรรมดา เช่น 304L, 316L เป็นต้น
|
ตระกูลออสเทนนิติค (Austenitic)
ตระกูลเฟอร์ริติค (Ferritic)
ตระกูลมาร์เทนซิติค
ตระกูลดูเพล็กซ์ ( Duplex)
- การที่โครงสร้างผสมระหว่างเฟอร์ริติค และออสเทนนิติค ทำให้สามารถต้านทานการแตกร้าว จากการกัดกร่อนด้วยแรงเค้นสูงและการกัดกร่อนเป็นรู
เนื่องจากมีสมบัติเชิงกลดีเลิศในการใช้งานที่อุณหภูมิติดลบ ได้ถึง -225 องศาเซลเซียส หรือ ใช้งานที่อุณภูมิ (ถึง 1100 องศาเซลเซลเซียส)
|
ที่มา : วรรณิดา เหล็กดัด อินเตอร์
|
No comments:
Post a Comment